10 ผลไม้สําหรับคนเป็นเบาหวาน มีอะไรบ้าง และห้ามกินอะไร

10 ผลไม้สําหรับคนเป็นเบาหวาน มีอะไรบ้าง และห้ามกินอะไร

สารบัญเนื้อหา

เบาหวาน โรคที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในกระบวนการเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงาน ซึ่งปกติแล้วโดยปกติแล้ว น้ำตาลในกระแสเลือดจะไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆในร่างกาย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อ และสมอง แต่ถ้าเกิดเป็นเบาหวานขึ้นมา จะทำให้ฮอร์โมนที่ชื่อว่าอินซูลิน ที่เป็นตัวนำน้ำตาลในกระแสเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ เกิดความผิดปกติ ทำให้นำตาลในเลือดไม่สามารถส่งไปยังส่วนที่ร่างกายต้องการได้เหมือนปกติ ทำให้เกิดนำตาลในกระแสเลือดเยอะมากขึ้น และหากปล่อยไว้แล้วระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินกว่าปกติอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลให้น้ำตาลรั่วออกมาปนกับปัสสาวะ และยังปลอดไว้อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานที่รุนแรงตามมาในที่สุด อ่านเพิ่มเติม  เบาหวาน คือ

ผลไม้สําหรับคนเป็นเบาหวาน

ผลไม้สําหรับคนเป็นเบาหวาน มีอะไรบ้าง

ในผลไม้ส่วนใหญ่เป็นแหล่งของน้ำตาลเลยก็ว่าได้ ชีวาเลยมาแนะนำว่าผลไม้สําหรับคนเป็นเบาหวาน มีอะไรบ้าง ที่คนเป็นเบาหวานสามารถกินได้ แต่กินได้ก็ใช่ว่าจะกินในปริมาณที่เยอะเกิน เพราะอะไรที่เยอะเกินไม่ดีต่อร่างกาย
จากที่กล่าวมาว่าคนที่เป็นเบาหวานร่างกายจะไม่สามารถใช้นำตาลที่กินเข้าไปได้เหมือนปกติ ทำให้น้ำตาลตกค้างในเลือดมากขึ้น และในผลไม้ส่วนใหญ่ก็เป็นแหล่งของน้ำตาล แต่แหมผลไม้อะไรก็น่าหมดไปหมด ขอกินซักหน่อยแล้วกัน กินน้อยๆเอา แต่แทนที่จะกินผลไม้อะไรก็ได้ หันมากินผลไม้ที่คนเป็นเบาหวานกินได้และปลอดภัยดีกว่านะ

1.มะเขือเทศ

มะเขือเทศโดยทั่วไปแล้วปลอดภัย แต่อาจทำให้แพ้ในบางคน และอาจอันตรายถ้ากินเยอะเกินไป

ปริมาณที่แนะนำขนาดกลาง 1 ลูก แต่ถ้าเป็น มะเขือเทศราชินีได้มากสุด 7 ลูก

2.เบอร์รี่

เบอร์รี่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่เป็นเบาหวาน แต่แนะนำแบล็กเบอร์รี่ เพราะมีปริมาณเส้นใยมากกว่าเบอร์ชี่ชนิดอื่นๆถึงสองเท่า

ปริมาณที่แนะนำ 1 ถ้วยเล็ก

3.สตรอเบอร์รี่

ในสตรอเบอร์รี่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ไฟเบอร์ และวิตามินซี ที่เป็นตัวเลือกที่สดชื่น และอร่อย

ปริมาณที่แนะนำ 1 ถ้วยเล็ก

4.ลูกพลัม

ลูกพลัมคาร์โบไฮเดรตในรูปน้ำตาล ลูกพลัม 1 ลูกมีน้ำตาล 13 กรัม แต่ดัชนีระดับร้ำตาลค่ออนข้างต่ำ จึงทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และยังรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้ใกล้เคียงกับปกติได้อีกด้วย

ปริมาณที่แนะนำ 2 ลูก

5.ส้มโอ

ส้มโอ แหล่งของความชุ่มชื้นและวิตามินซี แต่อาจส่งผลไม่ดีถ้ากินในปริมาณที่เยอะเกินไป

ปริมาณที่แนะนำผลขนาดกลาง 1/2 ลูก (ครึ่งลูก)

6.ลูกพีช

ผลไม้ฉ่ำหวาน มีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ และยังมีการศึกษาที่พบว่าอาจสู้กับเบาหวานได้อีกด้วย

ปริมาณที่แนะนำผลกลาง 1 ลูก

7.แอปเปิ้ล

แอปเปิ้ลเต็มไปด้วยเส้นใย และเส้นใยส่วนใหญ่ก็อยู่ที่เปลือก ฉนั้นการกินแอปเปิ้ลทั้งเปลือกจึงเป็นตัวเลือกชั้นเยี่ยมสำหรับคนที่เป็นเบาหวาน

ปริมาณที่แนะนำเล็ก 1 ลูก

8.ลูกแพร์

ลูกแพร์เต็มไปด้วยเส้นใยที่ดีต่อสุขภาพ จึงเป็นทางเลือกของว่างได้ และยังมีการศึกษาชี้ให้เห็นว่าการกินลูกแพร์ อาจช่วยให้คนที่เป็นเบาหวานแระเภทที่ 2 ดีขึ้นได้

ปริมาณที่แนะนำผลเล็ก 1 ลูก

9.กีวี

กีวีผลไม้ขนาดเล็ก ที่เต็มไปด้วยวิตามินซีและที่สำคัญน้ำตาลต่ำ

ปริมาณที่แนะนำ 1-2 ลูก

10.ส้ม

ส้ม 1 ผลกลาง มีวิตามินซี 78% เป็นปริมาณที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน และคาร์โบไอเดรต 15 กรัม แคลอรี่ 62 แคล โฟเลต 40 ไมโครกรัม โพแทสเซียม 237 มิลลิกรัม ซึ่งอาจช่วยปรับความดันโลหิตให้กลับมาปกติได้

ปริมาณที่แนะนำผลกลาง 1 ลูก

คนเป็นเบาหวาน ห้ามกินอะไร

1.เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล

แน่นอนอยู่แล้วเพราะคนเป็นเบาหวานไม่ถูกกับน้ำตาลควรเลือกใช้น้ำตาลเทียมหรือสารให้ความหวานแทน อย่าง หญ้าหวาน

2.ไขมันทรานส์

ไขมันทรานส์ตามอาหารทอดที่เจอได้ทั่วไปตามฟาสฟู๊ดหรืออาหารตามสั่งเป็นสิ่งที่ควรเลี่ยง แนะนำให้ทำทานเอง โดยใช้น้ำมันอย่าง น้ำมันมะกอกจะดีกว่า

3.ขนมปังขาว

ขนมปังขาวเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตที่สูงมาก และอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง นอกจากจะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดแล้ว ยังลดการทำงานในสมองของคนที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 อีกด้วย
โยเกิร์ตรสผลไม้
โยเกร์ตปรุงแต่งมักทำจากนมที่มีไขมันหรือไขมันต่ำและเต็มไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล ควรเลือกโยเกิร์ตธรรมดาที่ไม่มีน้ำตาลแทน อาจมีประโยชน์ต่อการควบคุมน้ำหนักอีกด้วย

4.ซีเรียลรสหวาน

อาหารเช้าที่ทานง่ายแต่มันแย่มากต่อคนเป็นเบาหวานแม้แต่ซีเรียสที่มีระบุว่าดีต่อสุขภาพก็ไม่แนะนำต่อคนเป็นเบาหาวนเหมือนเดิม เพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงควรเลี่ยงซีเรียสและกินอาหารเช้าแทนจะดีที่สุด

5.กาแฟปรุงแต่ง

กาแฟมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง รวมถึงอาจช่วยลดเบาหวานอีกด้วย แต่กาแพที่ปรุงแต่งถูกมองว่าเป็นของหวานเหลวมากกว่าจะเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ภายใต้การควบคุมควรเลือกกาแฟดำหรือเอสเปรสโซดีกว่า

6.น้ำผึ้ง

ในน้ำผึ้งนั้นน้ำตาลธรรมชาติที่จัดอยู่ในประเภทเดียวกันกับน้ำตาลทราย แต่อาจจะน้อยกว่าน้ำตาลทรายอยู่นิดหน่อย เป็นตัวเลือกใช้แทนน้ำตาลปกติได้ แต่ทางที่ดีควรเลือกน้ำตาลเทียมหรือสารให้ความหวานจะดีที่สุด

7.ผลไม้อบแห้ง

ผลไม้เป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุ แต่เมื่อผ่านกระบวนการอบแห้ง ทำให้สูญเสียน้ำซึ่งจะทำให้สารอาหารอื่นๆสูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำตาล แนะนำกินผลไม้สดตามที่ได้แนะนำข้างบนจะดีที่สุด

8.ขนมขบเคี้ยวบรรจุห่อ

ขนมขบเคี้ยวมักทำด้วยแป้งและให้สารอาหารน้อย และมีคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยเร็ว แต่การย่อยเร็วนั้นหมายถึงการเพิ่มขึ้นของน้ำตาลนั่นเอง

9.น้ำผลไม้

แม้ว่าผลไม้จะดีต่อสุขภาพ แต่น้ำผลไม้กลับส่งผลกระทบต่อน้ำตาลในเลือดเหมือนกับโซดาและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลอื่นๆ และบางกรณีน้ำผลไม้อาจมีน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตสูงกว่าโซดาอีกด้วย แนะนำน้ำมะนาวจะดีกว่า

เป็นเบาหวานกินสับปะรดได้ไหม

สับปะรด ผลไม้รสหวานที่มีสารอาหารหลายอย่าง เช่น วิตามินซี แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ โฟเบต แบะสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สามารุช่วยให้สุขภาพดีได้ แต่อย่างไรก็ตาม ในสับปะรดก็ยังมีน้ำตาลอยู่ หากกินในปริมาณที่พอเหมาะก็สามารถช่วยสุขภาพดีขึ้นได้ แต่ถ้าคิดจะกินสับปะรดจริงๆ ให้หมั่นตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วย หากพบว่ามีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอาจจะต้องทานให้น้อยลงกว่าเดิม

ปริมาณที่แนะนำ 1 ชิ้นบางๆ

คนเป็นเบาหวานกินแตงโมได้ไหม

ในแตงโมมีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย เช่น วิตามิน A C B1 B6 โพแทสเซีบม แมกนีเซียม ใย เหล็ก แคลเซียม ไลโคปีน ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ในแตงโมก็ยังมีน้ำตาลอยู่เช่นเดียวกับผลไม้อื่นๆ การทานแค่พอเหมาะร่วมกับอาหารอื่นๆ จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกินแตงโม

ปริมาณที่แนะนำ ประมาณ 1 ชิ้น

อาหารเบาหวานกับผู้สูงวัย

อาหารเบาหวานกับผู้สูงวัย ควรรับมือยังไงดี

อาหารเบาหวานกับผู้สูงวัย ทำความเข้าใจง่ายๆคือ ลดน้ำตาล ลดไขมัน ลดเนื้อติดมัน ควบคุมคาร์โบไฮเดรต และบริโภคผักให้มากขึ้น และใช้กฏง่ายๆ 6 ข้อนี้เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้สูงอายุ อ่านเพิ่มเติม อาหารเบาหวานกับผู้สูงวัย

คอมเมนต์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ