คำถามที่พบบ่อย

คำถามที่พบบ่อย

คำถามเกี่ยวกับ การทาน

  • เรามีงานวิจัยรับรองจากสถาบันมาตรฐานชั้นนำระดับโลกที่เข้ามาตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของเราแล้วพบว่ามีสาร Gymnemic Acids เกิน 25% ซึ่งเป็นสารที่มีปริมาณมากพอที่จะเข้าไปกระตุ้นและฟื้นฟูการทำงานของตับอ่อนให้กลับแข็งแรงได้จริง นอกจากนั้นเรายังมีรายงานมากมายจากผู้ใช้จริงที่สุขภาพดีขึ้นเพราะผลิตภัณฑ์ของเราอีกด้วย
  • ชนิดแคปซูล 1 กระปุก มี 40 เม็ด ทานวันละ 2 เม็ด จะสามารถทานได้ 20 วัน

        ชนิดชาชง 1 กล่อง มี 10 ซอง  ทานวันละ 1 ซอง จะสามารถทานได้ 10 วัน แต่ชงซ้ำตลอดวันได้ถึง 8 ครั้ง

อาการข้างเคียงที่พบส่วนใหญ่จะมีอาการใจสั่น คลื่นไส้ ซึ่งเกิดจากการที่ระดับน้ำตาลลดลงอย่างรวดเร็วในกรณีที่ผู้รับประทานมีโรคประจำตัวอื่น หรือเป็นเบาหวาน ควรเจาะเลือดเพื่อตรวจสอบระดับน้ำตาล และควรปรึกษาแพทย์ในกรณีที่รับประทายร่วมกับยาหมอ หรือตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ

ในกรณีที่รับประทานแล้วเกิดอาการผิดปกติ ควรหยุดรับประทานผลิตภัณฑ์ก่อน แล้วลองลดผลิตภัณฑ์ลง เช่น ถ้าทานผลิตภัณฑ์ชนิดชาชงกับแคปซูล ให้รับประทานแต่ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มอย่างเดียวไปก่อน ประมาณ 2 อาทิตย์ เพื่อดูอาการ ถ้ามีอาการปกติแล้วจึงเริ่มรับประทานแคปซูลร่วมด้วย

เนื่องจากงานวิจัยที่นำผักเชียงดาไปทดลองใช้กับผู้ป่วยเป็นโรคอยู่แล้วรับประทานพบว่า ผักเชียงดาไม่มีผลต่อค่าตับ ไต ในระยะยาว ซึ่งทดลองรับประทานสูงสุด 20 เดือนจากผลการทดลองจะเห็นได้ว่า ผักเชียงดามีความปลอดภัยค่อนข้างสูง แต่ถึงอย่างไรก็ตามผู้บริโภคควรประทานตามคำแนะนำบนฉลากสินค้าอย่างเคร่งครัด

สำหรับการรับประทานที่ได้ผลเร็วที่สุดในการลดระดับน้ำตาลในเลือด แนะนำให้รับประทานชาชง คู่กับแคปซูล สำหรับผู้ที่มีสุขภาพดีที่มีภาวะเสี่ยง ที่มีน้ำตาลในเลือดสูงหรือผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นเบาหวาน แต่ควรระวังการรับประทานยา สำหรับผู้ที่ทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่แล้ว

ไม่ควรรับประทานมากกว่าปริมาณที่ชีวาแนะนำ เนื่องจากปริมาณที่เราแนะนำไว้นั้นเป็นปริมาณที่ได้รับการรับรองจากงานวิจัยต่างๆ ในกลุ่มคนที่เป็นผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่เป็นโรคอื่นๆ ร่วมด้วยกับยา ซึ่งปริมาณที่แนะนำจะเป็นปริมาณที่เหมาะสมกับผู้รับประทาน และถ้ามีการใช้ผลิตภัณฑ์เกินขนาดจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำเร็วเกินไป ซึ่งจะทำให้ผู้รับประทานมีอาการใจสั่น คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี

  • สามารถเลือกทานได้ตามใจ อยู่ที่ความสะดวก แต่อาจจะเห็นผลช้ากว่าการทานควบคู่แคปซูลและชาชง เพราะว่า

         แบบแคปซูล จะช่วยจัดการค่าน้ำตาลจากอาหารที่เราทานเข้าไป และมีส่วนช่วยลดค่าน้ำตาลสะสม

         แบบชาชง มีส่วนช่วยลดความหนืดของเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น และเข้าไปช่วยเสริมการทำงานของชนิดแคปซูลนั่นเอง

         ดังนั้น เพื่อการมีประสิทธิภาพที่ดีในการทาน จึงแนะนำให้ทานควบคู่กันทั้งแบบแคปซูลและแบบชาชง จะทำให้ค่าน้ำตาลลดลงอย่างชัดเจน เห็นผลได้เร็ว

ตอนนี้ยังไม่มีข้อกำหนดในเรื่องของอาหารก่อภูมิแพ้ (Food Allergens) ในประเทศไทยและในต่างประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับผักเชียงดา แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การแพ้อาหารก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นกับคนที่รับประทานได้ ดังนั้นเมื่อรับประทานผลิตภัณฑ์สุขภาพ ตรา ชีวา แล้วพบว่าร่างกายมีอาการผิดปกติ เช่น ใจสั่น,อาเจียน,เป็นผื่น,ลมพิษ,ผิวหนังอักเสบ,มีอาการบวมที่ปาก ใบหน้า ลิ้นและคอ หรือส่วนอื่นๆ ในร่างกาย,ปวดท้อง,ท้องเสีย,คันตา ให้หยุดรับประทานผลิตภัณฑ์ในทันที ดังนั้นผู้ที่มีโณคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชก่อนรับประทาน

สามารถทานได้แน่นอน เพราะส่วนผสมหลักของชีวามีเพียง เชียงดาและอบเชย เป็นสมุนไพรออแกนิคที่ปราศจากสารเคมีใดๆ

สามารถรับประทานได้ เพราะผลิตภัณฑ์สุขภาพ ตรา ชีวา ได้รับการผลิตจากโรงงานผลิจสินค้าที่ได้รับการรับรองฮาลาล จากสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และนอกจากรับรองฮาลาล ทางโรงงานผลิตยังได้รับรองมาตรฐานการปฏิบัติที่ดีในการผลิตอาหาร (GMP Index) เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและความมั่นใจต่อการบริโภคมากที่สุด

คำถามทั่วไป

ช่วยในการลดการอักเสบได้ ทำให้แผลหายไว เพราะร่างกายไม่ดูดซึมน้ำตาลเข้าไป

แคปซูลเมื่อเปิดแล้วโดยทั่วไปแนะนำให้รับประทานให้หมดภายใน 1 เดือน เนื่องจากเมื่อเราเปิดฝาขวด เม็ดแคปซูลจะมีการสัมผัสอากาศจากภายนอก ความชื้น อุณหภูมิ แสงแดด เชื้อจุลินทรีย์ จะเป็นปัจจัยในการเร่งให้เสื่อมคุณภาพของสินค้า อันดับแรกที่จะเปลี่ยนแปลงก่อนคือ ลักษณะทางกายภาพคือ สีของแคปซูล กลิ่นผิดปกติ เม็ดแคปซูล เหนียวและติดกัน 

เมื่อแคปซูลมีสภาพผิดปกติตามที่แจ้งไปเบื้องต้นนั้น จึงไม่แนะนำให้รับประทานต่อไป และควรจัดเก็บแคปซูลไว้ในที่ร่ม อุณหภูมิห้อง ไม่ให้ถูกแสงแดด เพื่อป้องกันการเสื่อมคุณภาพของแคปซูล

1 แคปซูล (500 กรัม) = ใบเชียงดาสด 1 กิโลกรัม

สอบถามปัญหาสุขภาพ/ปัญหาการใช้งานเว็บไซต์