ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง อาการเป็นยังไง อันตรายไหมถ้าปล่อยไว้

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง อาการเป็นยังไง อันตรายไหมถ้าปล่อยไว้

สารบัญเนื้อหา

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia) คืออะไร

Hyperglycemia หรือ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง คือ ภาวะที่มีน้ำตาล ในเลือดมากจนเกินไป เนื่องจากร่างกายมีอินซูลินที่น้อยมาก (อินซูลินคือฮอร์โมนที่ขนส่งกลูโคสเข้าสู่เลือด) ภาวะนี้อาจจะเกิดหากร่างกายไม่สามารถใช้อินซูลินได้อย่างปกติด้วย หรือที่เรียกว่าโรคเบาหวานนั่นเอง ภาวะน้ำตาล ในเลือดสูง จะตรวจเจอระดับน้ำตาลมากกว่า 180 มก./ดล. (ระดับน้ำตาลขณะอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง) หากมีภาวะน้ำตาลในสูงและไม่ได้รับการรักษาเป็นเวลานาน อาจทำให้เส้นประสาทถูกทำลาย รวมไปถึงเนื้อเยื่อต่างๆและอวัยวะในร่างกาย และที่สำคัญ ความเสียที่เกิดต่อหลอดเลือด จะทำให้มีความเสี่ยงเกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือดต่างๆ ตามมา รวมไปถึงผลกระทบที่อาจเกิดต่อสมองเส้นประสาท ส่งผลเป็นลูกโซ่ไปยังดวงตา และไตได้

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง อาการเป็นยังไง

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง อาการ เป็นยังไง? (Hyperglycemia Symptoms)

ภาวะน้ำตาล ในเลือดสูง อาการจะไม่แสดงออกมามากนักถ้ากลูโคสหรือระดับน้ำตาล ในเลือดไม่สูงมากนัก โดยปกติแล้วน้ำตาล ในเลือดสูง จะอยู่ที่ 180- 200 mg/dl (มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร) อาการจะเริ่มอย่างช้าๆ เป็นระยะเวลาหลายวัน หรือ หลายสัปดาห์ ยิ่งมีภาวะน้ำตาล ในเลือดสูงเป็นเวลานาน อาการจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 มานานแล้ว อาจจะไม่แสดงอาการใดๆเลย ถึงแม้น้ำตาลใน เลือดจะสูงมากก็ตาม ฉนั้นหมั่นตรวจน้ำตาลใน เลือดรายวันบ่อยๆ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง ถ้าเป็นเบาหวานอยู่แล้ว หรือถ้าไม่ได้เป็น แต่ถ้ามีอาการเหล่านี้ก็ลองหาซื้อที่ตรวจน้ำตาลมาตรวจจะดีที่สุด อาการของน้ำตาลใน เลือดสูง มีอะไรบ้าง

  • หิวน้ำบ่อย
  • ปากแห้ง
  • ฉี่บ่อยๆ
  • หายใจถี่ขึ้น
  • คลื่นไส้อาเจียน
  • อ่อนเพลีย
  • สายตาพร่ามัว
  • รู้สึกสับสน
  • น้ำหนักลด
  • ปวดท้อง
  • ปวดหัว
  • รู้สึกไม่สบาย
  • ลมหายใจมีกลิ่นผลไม้
  • อาจเกิดการติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวร่วมด้วย

เมื่อไหร่ถึงควรไปพบแพทย์

  • ระดับน้ำตาล ในเลือดสูงกว่า 240 มก./ดล. อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะทานยารักษาเบาหวานแล้วก็ตาม
  • ท้องเสียและอาเขียนอย่างต่อเนื่อง
  • มีไข้ (35c ขึ้นไป)เกิน 24 ชั่วโมง
  • หายใจเร็วขึ้น
  • หัวใจเต้นเร็วขึ้น

น้ำตาลในเลือด ปกติ เท่าไหร่

ระดับน้ำตาล ในเลือด ของคนที่ไม่ได้เป็นเบาหวาน จะอยู่ที่ 90-110 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หลังจากอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง แต่สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน ระดับน้ำตาล ในเลือดจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละช่วงอายุ โดยอายุต่ำกว่า 6-12 ปี จะอยู่ที่ 80-180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร และในอายุ13-19 ปี จะอยู่ที่ 70-150 มิลลิกรัม/เดซิลิตร อายุ 20 ปีขึ้นไป จะอยู่ที่ 100-180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร

ภาวะน้ำตาล ในเลือดต่ำ ต่างจาก ภาวะน้ำตาล ในเลือดสูง ยังไง ?

ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) เมื่อตรวจจะพบระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 70 มิลลิกรัม / เดซิลิตร เกิดยากในคนปกติ ส่วนใหญ่จะเกิดกับคนเป็นเบาหวานซะส่วนใหญ่ เป็นค่อนข้างที่จะเป็นอาการเฉียบพลัน เพราะในคนที่เป็นเบาหวานจำเป็นต้องคุมระดับน้ำตาลในเลือด แต่เมื่อคุมมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ บางรายอาจจะเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ถ้าหาของหวานมาให้ทานไม่ทันการ ส่วนภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ระดับน้ำตาลจะอยู่ที่ 180-200 มิลลิกรัม / เดซิลิตร สามารถเกิดได้กับคนปกติทั่วไป และจะไม่ค่อยแสดงอาการในคนที่เป็นเบาหวานอาการจะเป็นในระยะยาว ถ้าระยะยาวยังไม่รีบรักษาให้อาการดีขึ้น จะมีผลเสียต่างๆตามมาต่อร่างกาย อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะน้ำตาลต่ำ

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง สาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง

มีหลายสิ่งที่สามารถกระตุ้นให้ระดับน้ำตาล ในเลือดสูงขึ้นได้ บางครั้งก็เกิดขึ้นกับเด็กและผู้ใหญ่ในช่วงการเจริญเติบโต และอาจเกิดจากสาเหตุเหล่านี้ร่วมด้วย

  • ป่วย
  • โรคปอด
  • การผ่าตัด
  • โรคตับอ่อน
  • กินมากเกินไป
  • อาการบาดเจ็บต่างๆ
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • ขาดยารักษาเบาหวาน
  • ยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์
  • เครียดทางร่างกายและอารมณ์
  • ร่างกายใช้อินซูลินได้ไม่ดีพอ (คนเป็นเบาหวาน)
  • ปริมาณคาร์โบไฮเดรต ไม่สมดุลกับปริมาณอินซูลิน
  • ปรากฏการณ์รุ่งอรุณ (การกระชากของฮอร์โมนที่ร่างกายผลิตในตอนเช้าประมาณ 4-5 โมงเช้า)
  • ภาวะต่อมไร้ท่อ ที่ทำให้เกิดความต้านทานต่ออินซูลิน

การรักษาภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

หากตรวจน้ำตาล ในเลือดเองแล้วปรึกษาแพทย์และได้รับการวินิจฉัยแล้วว่ามีภาวะน้ำตาล ในเลือดสูง และเป็นเบาหวานร่วมด้วย ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยปกติแล้วเมื่อมีภาวะน้ำตาล ในเลือดสูงแพทย์จะแนะนำตามแต่ละอย่างต่อไปนี้

  • ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ
  • ออกกำลังกายบ่อยๆ
  • หากมีการใช้อินซูลินให้ปรับขนาดยา
  • ปรับเปลี่ยนการกินอาหาร โดยเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาล

นอกจากคำแนะนำเหล่านี้แล้ว แพทย์อาจจะต้องตรวจสอบระดับน้ำตาล ในเลือดของคุณอย่างใกล้ชิด หรืออาจจะต้องตรวจเลือด หรือปัสสาวะเพิ่มเติม จนกว่าระดับน้ำตาล ในเลือดจะกลับมาภายปกติ หรือ ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่

ผักเชียงดาแคปซูล ชีวา ดีกว่าผักเชียงดาแบบปกติยังไง

สมุนไพรรักษาน้ำตาลสูง

ชีวา ชนิดแคปซูล คือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการสกัด จากสมุนไพรหลักๆ 2 ชนิด ได้แก่ ผักเชียงดา และ อบเชย ด้วยคุณสมบัติ เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปัญหา ความดัน เบาหวาน (ระดับน้ำตาล ในเลือดสูง) ไขมัน คลอเรสรอล หรือผู้ที่สนใจดูแลสุขภาพป้องกันปัญหาหาสุขภาพตามมา

วิธีป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูง

  • ออกกำลังกาย
  • ระวังอาหารการกิน โดยเฉพาะขนมขบเคี้ยวและอาหารที่มีน้ำตาล
  • หมั่นตรวจระดับน้ำตาล ในเลือดอยู่ประจำ
  • ในกรณที่เป็นเบาหวานห้ามลืมใช้อินซูลิน

ภาวะแทรกซ้อนจากภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

การเกิดภาวะน้ำตาล ในเลือดต่ำนั้นส่งผลทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว ยิ่งปล่อยไว้นานอาการก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และภาวะแทรกซ้อนที่ตามมานับไม่ถ้วน

ภาวะแทรกซ้อนในระยะสั้น

ในระยะสั้นอาจก่อให้เกิด คีโตอะซิโดซิสเบาหวาน (Ketoacidosis) เมื่อเกิดภาวะนี้น้ำตาลจะไม่สามารถเข้าสู่เซลล์เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ และระดับน้ำตาล ในเลือดที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ร่างกายเริ่มสลายไขมันเป็นพลังงาน กระบวนการนี้จะผลิตกรดที่เป็นพิษที่เรียกว่าคีโตน คีโตรส่วนเกินจะสะสมในเลือด และเมื่อสะสมจนเกิดล้น คีโตจะเข้าไปปะปนในปัสสาวะ หากยังไม่ได้รับการรักษาจะนำไปสู่อาการโคม่าและอันตรายถึงชีวิตได้

ภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว

การรักษาระดับน้ำตาล ในเลือดในช่วงที่สุขภาพดีนั้นมีส่วนช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับเบาหวาน และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆตามมาเช่น

  • โรคไต
  • โรคหัวใจ
  • ต้อกระจก
  • โรคประสาท
  • โรคหลอดเลือด
  • ปัญหากระดูกและข้อต่อ
  • การติดเชื้อที่ฟันและเหงือก
  • การติดเชื้อที่ผิวหนังรุนแรง
  • เบาหวานขึ้นตา (อาจตาบอดถ้าอาการรุนแรง)

คอมเมนต์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ