ผู้สูงอายุ หรือ ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ตามกระราชบัญญัติผู้สูงอายุปี พ.ศ.2546 และเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการใช้ร่างกายมาอย่างยาวนาน ทำให้ประสิทธิภาพอวัยวะต่างๆ ในร่างกายทำงานได้น้อยลง จากการใช้งานมายาวนาน ทำให้ร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้เหมือนช่วงอายุที่ผ่านมา ผู้สูงอายุเลยจำเป็นต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษทั้งร่างกาย และ จิตใจ โดยเฉพาะการดูแลและบำรุงอวัยวะภายในอย่างเช่นไต เนื่องจาก ไตเป็นอวัยวะที่ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย หากไตเกิดเสื่อมลงตามอายุโดยไม่มีการบำรุง อาจทำให้สารพิษตกค้างในร่างกายเป็นจำนวนมาก ร้ายแรงที่สุดคืออาจทำให้ถึงแก่ชีวิตเลยก็ได้
เพราะอะโวคาโดนั้นดีต่อสุขภาพมาก แต่เนื่องจากอะโวคาโดมีสารอาหารบางอย่าง ที่ไม่เหมาะกับคนเป็นโรคไตเท่าไหร่ อาหารที่ห้ามในที่นี้ บางอย่างเลยไม่ได้หมายถึง กินไม่ได้เลย แค่เพียงกินแต่น้อย กินแต่พอดี
1.พริกหยวกแดง
ในพริกหยวกแดง เต็มไปด้วยไฟเบอร์ แถมยังโพแทสเซียมต่ำอีกด้วย ทำให้พริกหยวกแดงนี้ เป็นมิตรต่อไต แถมพริกหยวกแดงยังมีวิตามิน A B6 C และสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง ไลโคปีน ที่อาจป้องกันมะเร็งบางชนิดได้ และนอกจากนี้ใยอาหารจากพริกหยวก ยังช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลที่เข้าสู่กระแสเลือดได้อีกด้วย แถมวิตามินซีในพริกหยวก อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ที่เป็นเบาหวานอีกด้วย
2.กะหล่ำปลี
ผักตระกูลกะหล่ำเต็มไปด้วยไฟเบอร์แถมโพแทสเซียมยังต่ำอีกด้วย นอกจากนี้ผักตระกูลกะหล่ำยังมีสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่าง กรดโฟลิก วิตามินบี 6 วิตามินเค วิตามินซี ซึ่งเป็นส่วนเสริมชั้นเยี่ยม สำหรับบำรุงไตของผู้สูงอายุอีกต่างหาก นอกจากนี้กะหล่ำปลียังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างไฟโตเคมิคอล ที่ช่วยป้องกันมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย
และกะหล่ำปลียังสามารถทานได้ทั้งดิบ หรือ นึง เพราะกะหล่ำปลีจะสูญเสียสารอาหารจากการนึ่งนั่นเอง และเนื่องจากกำหล่ำปลีมีใยอาหาร (Fiber) ที่ค่อนข้างสูง จึงมีส่วนช่วยลดการดูดซึมของน้ำตาลในเลือดได้ แถมยัง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น ลดความดันโลหิต และลดระดับคอเลสเตอรอล
3.กระเทียม
กระเทียมถูกใช้เป็นยาในการแพทย์ทางเลือก มามากกว่า 3,000 ปีแล้ว และในกระเทียมสดยังสามารถรักษาโรคอีกหลายชนิดเช่น ความดันโลหิต โรคหัวใจ โรคไต และเบาหวาน เป็นต้น การเพิ่มกระเทียมสดในอาหาร หรือ ถ้ากินกระเทียมเพรียวๆ ได้ในทุกๆวัน จะดีต่อร่างกายอย่างมาก
5.ปลาแซลมอน
ปลาแซลมอนเป็น 1 ใน อาหารบำรุงไต ผู้สูงอายุ ที่ดีที่สุด เนื่องจากในปลาแซลม่อนมีไขมันดี (HDL) ที่สามารถต้านการอักเสบได้อย่าง โอเมก้า 3 ซึ่ง โอเมก้า 3 สามารถช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนของผู้สูงอายุที่เป็นเบาหวานได้อีกด้วย และยังมีโปรตีนคุณภาพสูง ซึ่งดีต่อหัวใจและไต อีกอย่างสมาคมโรคหัวใจอะมริกาและสมาคมโรคเบาหวานอเมริกา แนะนำให้กินปลาแซลมอนอย่างน้อยๆ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อบำรุงสุขภาพ
6.ไข่ขาว
ไข่ขาวถือว่าเป็นโปรตีนบริสุทธิ์คุณภาพสูง มีกรดอะมิโน และยังมีฟอสฟอรัสน้อยกว่า โปรตีนจากแหล่งอาหารอื่นๆ ไข่ขาวเลยถือว่าเป็นอาหารที่ดีที่สุดในการบำรุงตับ แหละเหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคตับเรื้อรัง สามารถกินไข่ขาวเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการ แต่ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับไตให้กินเฉพาะไข่ขาว ห้ามกินไข่แดงเด็ดขาด เพราะไข่แดงมีฟอสฟอรัสที่ค่อนข้างสูง อาจส่งผลให้ไตทำงานหนักกว่าเดิมได้
7.แอปเปิ้ล
การกินผลไม้อย่างแอปเปิ้ลหลังมื้ออาหาร อาจมีส่วนช่วยป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาะ นิ่วในไต และโรคอื่นๆ ได้ แถมแอปเปิ้ลยังมีใยอาหาร (Fiber) ที่ช่วยต้านการอักเสบและช่วยในการขับถ่ายอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีวารสารจากคลินิกโภชนาการอเมริกา ในปี 2017 ค้นพบว่า การแทนที่น้ำตาลกลูโคสหรือซูโครสด้วย น้ำตาลฟรุกโตสที่อยู่ในแอปเปิ้ล ทำให้น้ำตาลและอินซูลิน ในกระแสเลือดน้อยลง หลังมื้ออาหาร
แถม USDA (กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา) ยังรายงานอีกว่า ในแอปเปิ้ลขนาดกลาง มีใยอาหารประมาณ 4 กรัม ซึ่งอาจมีส่วนช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลในร่างกายและอาจป้องกันน้ำตาลในเลือดที่เพิ่มขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในผู้ที่เป็นเบาหวาน ก็ไม่ควรกินแอปเปิ้ลเป็นจำนวนมากอยู่ดี เพราะอาจทำให้น้ำตาลสูงได้
8.บลูเบอร์รี่
ในบลูเบอร์รี่มีไฟโตนิวเทรียนท์ และสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง แอนโธไซยานิดิน ที่ทำให้บลูเบอร์รี่เป็นสีฟ้า และในบลูเบอร์รี่ยังเต็มไปด้วย วิตามินซั ไฟเบอร์ และซีแมงกานีส ซึ่งช่วยลดริ้วรอยได้ แถมยังช่วยชะลอการเสื่อมของกระดูก และบลูเบอร์รี่ยังทำให้ร่างกาย ตอบสนองต่ออินซูลินได้มากขึ้น ซึ่งนั่นอาจหมายว่าว่า บลูเบอร์รี่นั้นดีต่อผู้ที่เป็นเบาหวานอีกด้วย แต่ถึงจะบอกว่าดี ก็ไม่ควรทานเยอะนะเพราะอะไรที่เยอะไป ไม่เคยดีต่อสุขภาพ
10.สตรอเบอร์รี่
ในสตรอเบอร์รี่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสรที่มีประสิทธิภาพซึ่งช่วยป้องกันโครงสร้างเซลล์ของร่างกาย และยังช่วยป้องกัารความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (เปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน) และสตรอเบอร์รี่ยังเป็นแหล่งของวิตามินซี แมงกานีส และยังเป็นแหล่งของเส้นใย อีกด้วย แถมยังช่วยป้องกันหัวใจ มะเร็ง และต้านการอักเสบ แต่อย่างไรก็ตาม คนที่เป็นเบาหวาน ควรกินสตรอเบอร์รี่แต่พอดี ไม่ควรกินเยอะเกินไป เพราะสตรอเบอร์รี่มีน้ำตาล
โรคไต ห้ามกินอะไร
นอกจากอาหารบำรุงไต ผู้สูงอายุที่ควรกินเพื่อบำรุงไตแล้วนั้น ควรรู้ด้วยว่าถ้าโรคไต ห้ามกินอะไร เพราะว่าถ้าเกิดกินโดยไม่รู้ อาหารบางอย่าง อาจทำให้ไตทำงานหนักขึ้น และทำให้อาการหนักกว่าเดิมได้
1.อะโวคาโด
ถึงแม้ว่าอะโวคาโดจะมีโภชนาการมากมาย และเป็นที่แนะนำในการบำรุงสุขภาพ เพราะอะโวคาโดเต็มไปด้วยไขมันดี (HDL) ที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ แถมยังมีไฟเบอร์และสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกายอีกด้วย แต่ เนื่องจากในอะโวคาโดมีโพแทสเซียมที่สูงมากถึว 690 มก. ต่อ 1 ลูก คนที่เป็นโรคไต ไม่ควรกินอะโวคาโดทั้งลูก แต่สามารถกินอะโวคาโด ประมาณ 1 ส่วน 4 ของอะโวคาโด 1 ลูกได้
สรุป
เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายก็ค่อยๆเสื่อมถอยลงตามการใช้งาน ยิ่งใช้งานร่างกายหนัก เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายก็จะยิ่งพังหนักกว่าคนอื่นๆ โดนเฉพาะเมื่อมีปัญหาทีไต เพราะไตช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ถ้าไม่บำรุง อาจทำให้มีการตกค้างของสารพิษได้ ฉนั้น การรู้ว่า อาหารบำรุงไต ผู้สูงอายุ มีอะไรบ้าง และ เป็นโรคไต ห้ามกินอะไรบ้างนั้น จะเป็นทางเลือกที่ดีในระดับนึง ถ้าเลือกกินให้ถูก และเติมอาหารเหล่านั้นลงไปในอาหารแต่ละมื้อ
@chewa.organic 10 อาหารบํารุงไต ผู้สูงอายุ ควรกินแบบไหน #บํารุงไต #ผู้สูงอายุ #อาหารบำรุงไตผู้สูงอายุ #อาหารคลีน #สุขภาพดี ♬ original sound - chewa.organic
@chewa.organic โรคไต ห้ามกินอะไรบ้าง 10 อย่างนี้ เลี่ยงได้เลี่ยง#โรคไต #โรคไตเรื้อรัง #โรคไตห้ามกินอะไร ♬ เสียงต้นฉบับ - chewa.organic
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อาหารบำรุงไต | davita
- อาหารบำรุงไตผู้สูงอายุ | homecareassistanceanchorage
- อาหารที่เหมาะกับไตวาย | กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐอเมริกา
- การกินไข่กับโรคไตเรื้อรัง | หอสมุดแห่งชาติแพทยศาสตร์ ร็อควิลล์ ไพค์ เบเธสดา อเมริกา
- แอปเปิ้ลกับเบาหวาน | medicalnewstoday
- บลูเบอร์รี่กับเบาหวาน | healthline
- เชอร์รี่กับเบาหวาน | healthline
- ประโยชน์ของพริกหยวก | webmd
- ประโยชน์ของกะหล่ำปลี | phablecare
- กระเทียมกับเบาหวาน | healthline
- หัวหอมกับเบาหวาน | หอสมุดแห่งชาติแพทยศาสตร์ ร็อควิลล์ ไพค์ เบเธสดา อเมริกา
- อาหารที่ควรเลี่ยงเมื่อเป็นโรคไต | healthline